พยาบาลในฐานะนักปฏิบัติที่จะต้องมุ่งเน้นการเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางการพยาบาลลงสู่การปฏิบัติ ท่ามกลางกระแสความกดดันจากการปฏิรูประบบ สุขภาพ การปฏิรูประบบราชการ การประเมิน คุณภาพ และการประกันคุณภาพ ตลอดจนความสับสนที่เกิดขึ้นในช่วงของการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านของการปฏิรูปดังกล่าว เป็นกระแสหลักที่ส่งผลกระทบต่อวิชาชีพพยาบาลและการปฏิบัติการพยาบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านและการเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นช่วงเวลาที่เอื้อโอกาสให้กับวิชาชีพพยาบาลในการพลิกฟื้นวิกฤตเป็นโอกาส ที่จะพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลที่เป็นเลิศ (Best Practice) โดยการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence Based) ที่ได้จากงานวิจัยในการปฏิบัติการพยาบาล เปลี่ยนมุมมองและทัศนคติที่มีต่อการวิจัยว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน ก็ยังคงเป็นแค่เศษเสี้ยวของความยุ่งยาก ซับซ้อน ในสมการคำตอบของการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมที่อาจจะไม่ต้องการคำตอบ แต่เป็นการทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ และนำมาใช้เพื่อพัฒนาการบริการพยาบาลให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ในการขับเคลื่อนการปฏิบัติการพยาบาลให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับนั้น Walshc และ Ham กล่าวว่า มีหลักสำคัญที่ควรคำนึงถึง 4 ประการ ได้แก่ ประการแรก การเปลี่ยนพื้นฐานการปฏิบัติการพยาบาลจากการใช้ความรู้สึกและความคิดเห็น หรือการคาดเดาเอาเอง มาเป็นการปฏิบัติการพยาบาลบนพื้นฐานความรู้เชิงประจักษ์ที่ใช้กระบวนการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Inquiry) ประการที่สอง ได้แก่ การจัดการกับองค์ความรู้ (Managing Knowledge) ที่เป็นระบบ เหมาะสม และตอบสนองต่อความต้องการขององค์กร ประการที่สาม ได้แก่ การมีระบบการตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพและการยอมรับการดูแลสุขภาพที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการปฏิบัติการพยาบาล (Systems for change) ส่วนประการสุดท้าย ได้แก่ การสร้างแรงจูงใจ (Incentives) ให้เกิดการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ ภายใต้กระแสของการพัฒนา คุณภาพบริการพยาบาลที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศนั้น คำว่า Evidence Based Practice หรือการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ได้ถูกกล่าวถึงทั้งในวงการศึกษาทางการพยาบาลและในหมู่ผู้ปฏิบัติการพยาบาล ซึ่งการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ทางการพยาบาลเพื่อการพัฒนา การบริการพยาบาลให้มีคุณภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้รับความสนใจมากขึ้น เหตุปัจจัยที่นำสู่การเกิดขึ้นของการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการพยาบาล ได้แก่ ความกดดันของผู้ใช้และผู้ให้บริการทางสุขภาพ จากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทันสมัย ในการตอบสนองต่อความต้องการในการใช้บริการทางสุขภาพของผู้ป่วยและความต้องการในการให้บริการทางสุขภาพของผู้ ดูแลสุขภาพ ความตื่นตัวของผู้ใช้บริการทางสุขภาพต่อบริการรักษาพยาบาลที่ได้รับ ตลอดจนข้อสงสัยในประสิทธิภาพของการรักษาพยาบาล ความสามารถอย่างไร้พรมแดนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทาง สุขภาพของประชาชน และผู้ให้บริการทางสุขภาพ ฉันทามติทางการเมืองและนานาชาติในเรื่องของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่มีผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง การพัฒนาประสิทธิภาพของการบริการทาง สุขภาพ เป็นต้น (3) ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพื้นฐานการปฏิบัติการพยาบาล โดยใช้กระบวนการเชิงวิทยา-ศาสตร์ (Scientific Enquiry) การจัดการกับองค์ความรู้ที่เป็นระบบ (Managing Knowledge) ตามที่กล่าวถึงมาแล้ว ตลอดจนการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence based practice) ย่อมหลีกเลี่ยงการใช้ความรู้จากงานวิจัยไปไม่ได้ โดยเป้าหมายสุดท้ายของการวิจัยทางการพยาบาล เพื่อพัฒนาคุณภาพการพยาบาลในด้านต่าง ๆ นั้น คือ การนำผลการวิจัยไปใช้ ทั้งในการใช้ในรูปงานวิจัยเดี่ยว ๆ หรือกลุ่มของงานวิจัย
Evidence-Based Practice : หนึ่งวิถี นำสู่การพัฒนาคุณภาพการพยาบาล
การใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาล (Evidence-based Practice หรือ EBP) มีความหมายในเชิงกระบวนการว่า การค้นหา การประเมินและการประยุกต์ใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการให้การพยาบาล การจัดการและการดูแล สุขภาพ โดยมีเป้าหมายหลักในการช่วยให้ผู้ปฏิบัติการสามารถทำการตัดสินใจ (Decision making) ในการเลือกให้การพยาบาลที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ความคุ้มทุน และกำจัดหรือป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติการพยาบาลนั้น ๆ (3,4)
กระบวนการใช้ EBP ทางการพยาบาลนั้น ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดประเด็นปัญหาทางคลินิกและการประเมินความจำเป็นในการปรับปรุงวิธีปฏิบัติเดิม
ขั้นตอนที่ 2 การสืบค้นและรวบรวมงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์และสังเคราะห์หลักฐานที่ได้จากงานวิจัยเพื่อสร้างแนวทางการปฏิบัติการพยาบาล
ขั้นตอนที่ 4 การสร้างและทดลองใช้ EBP เพื่อประเมินผล
ขั้นตอนที่ 5 การนำ EBP ที่มีการปรับปรุงไปใช้ในการปฏิบัติในองค์กร
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.bnct.ac.th/it/news2.php?id=5